EP.219 รีวิว คอนโด แอชตัน จุฬา-สีลม Ashton Chula-Silom
สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Ashton จุฬา-สีลม คอนโดสไตล์ Modern Luxury & Eclectic ที่โดดเด่นด้วยทำเลที่ตั้งใจกลางเมืองย่าน CBD ห่างจาก MRT สามย่านเพียง 180 เมตร ฝั่งตรงข้ามจามจุรีสแควร์ ห่างจาก MRT สีลม ซึ่งเป็นสถานีเชื่อมต่อกับ BTS ศาลาแดง และสวนสาธารณะลุมพินี เพียง 550 เมตร กับราคาเริ่มต้นที่ 7.9 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
ชื่อโครงการ | แอชตัน จุฬา-สีลม Ashton Chula-Silom |
เจ้าของโครงการ | อนันดา Ananda |
ลักษณะห้องและขนาดห้อง | – 1 Bed, 1 Bath : 24.5-34.5 ตร.ม. – 2 Bed, 2 Bath : 55.00-65.00 ตร.ม. |
เนื้อที่ทั้งหมด | 4-3-66.90 ไร่ |
จำนวนตึก | 1 อาคาร |
จำนวนชั้น | 56 ชั้น |
จำนวนห้อง | 1,180 ยูนิต |
ที่จอดรถทั้งหมด | ชั้นล่าง, ชั้นลอย, ชั้น 2- ชั้น 6 |
โซน | เขตบางรัก |
ขนส่งสาธารณะ | – รถไฟฟ้า MRT สามย่าน 180 เมตร – รถไฟฟ้า MRT สีลม 550 เมตร – รถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง 550 เมตร |
รถโดยสารที่ผ่าน | รถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, แท็กซี่, ตุ๊กๆ |
ที่ตั้ง | ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม. |
กำหนดการ | เปิดตัว 2558 |
ปีที่สร้างเสร็จ | กันยายน 2561 |
ราคา | เริ่มต้น 7.9 ล้านบาท |
ราคาเริ่มต้นเฉลี่ยต่อ ตร.ม | ประมาณ 259,000บาท/ ตร.ม. |
ค่าส่วนกลางและกองทุน | ส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม., ค่ากองทุน 650 บาท/ตร.ม. |
สถานที่สำคัญใกล้เคียง | 1. จามจุรีสแควร์ 2. สยามพารากอน 3. สยามเซ็นเตอร์ 4. เซ็นทรัลเวิล์ด 5. มาบุญครอง 6. สวนลุมพินี 7. ม.จุฬาลงกรณ์ 8. โรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา 9. โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ 10. โรงพยาบาลจุฬา |
จุดเด่นของโครงการ | – สระว่ายน้ำแบบโอโซน – สระว่ายน้ำแบบออนเซ็น – Double Floor Sky Fitness – Life Style Club & Wine Bar – Panoramic View Library – Panoramic Exclusive Business Lounge – สวนหย่อมขนาดใหญ่ – จุดจอดจักรยานรองรับ Eco-Friendly Lifestyle – CCTV – รปภ. 24 ชม. |
ที่ตั้งโครงการ
ถนนพระราม 4 แขวงสี่พระยา เขตบางรัก กทม.
การเดินทาง
ขอแนะนำเส้นทางสำหรับคนใช้รถกันก่อนนะคะ โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีทางเข้าออกทางเดียวคือติดถนนใหญ่พระราม 4 ฝั่งมุ่งหน้าไปแยกพญาไท ไปหัวลำโพง ใครที่ขับรถมาจากสาทรแล้วขึ้นสะพานยกระดับมามาทางลงจะอยู่เลยโครงการมาแล้ว ต้องวนรถโดยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนสี่พระยามาออกสุรวงศ์มาที่พระราม 4 เพื่อเข้าโครงการอีกทีค่ะ
แต่ทั่วไปถ้าไม่อยากอ้อม ถ้าวิ่งมาจากสาทรก็ไม่ต้องขึ้นสะพาน แต่วิ่งมาพระราม 4 ตรงๆเลยได้ แต่อาจจะต้องรอรถติดตามแยกบ้าง ตามธรรมดาของทำเลใจกลางเมืองแบบนี้นะคะ แต่ข้อดีคือจะไปไหนก็ง่าย จะสีลม สาทร สยาม หัวลำโพง พญาไท เจริญกรุง ก็ขับรถไประยะสั้นๆก็ถึง เพราะโซน CBD ด้วยกันอยู่ละ จะไปไหนไกลๆก็มีทางด่วนศรีรัชและทางด่วนเฉลิมมหานครที่ขับจากโครงการไปสิบนาทีก็ถึง เพราะจุดขึ้นลงทางด่วนทั้งคู่อยู่ห่างไปไม่ถึง 3 กม.
การเดินทางวันนี้เราลง MRT สามย่าน ประตู 1 ออกมาแถวหน้าวัดหัวลำโพงแล้วเลี้ยวขวา เดินมาตรงๆแค่ประมาณ 180 เมตรก็ถึงที่ตั้งโครงการ Ashton จุฬา – สีลม แล้วค่ะ บรรยากาศจะเป็นอย่างไรเราไปดูภาพกันเลย
เริ่มเดินทางกันจากหน้าทางลง MRT สามย่านประตู 1
ออกมาจากสถานี ด้านหน้าเราจะเป็นถนนพระราม 4 ฝั่งตรงข้ามคือจามจุรีสแควร์ค่ะ เรียกได้ว่าเป็นห้างที่อยู่ใกล้โครงการที่สุดละค่ะ แบบว่าอยู่ฝั่งตรงข้ามกันเลย
จามจุรีสแควร์เป็นอาคาร 3 หลัง แบ่งเป็นส่วนอาคารสำนักงาน 40 ชั้น โดย 4 ชั้นล่างเป็นศูนย์การค้า และอาคารที่พักอาศัย 23 ชั้น และอาคารเชื่อมต่อ Atrium ส่วนที่เราว่าช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้โครงการได้ดีคือส่วน 4 ชั้นล่างที่เป็นศูนย์การค้านี่ล่ะค่ะ ทั่วไปเปิด 11 โมง ปิด 2 ทุ่ม มีทั้งส่วนของร้านค้าปลีก (Retail) ศูนย์อาหาร และซูเปอร์มาร์เก็ต ธนาคาร มีจำนวน 4 ชั้น และชั้นใต้ดิน 1 ชั้น ซึ่งเป็นชั้นที่เชื่อมกับ MRT สามย่าน ซึ่งนับเป็นการเชื่อมต่อ MRT กับอาคารแห่งแรกของไทยด้วยด้วยค่ะ
นอกจากจะเชื่อมต่อกับ MRT เป็นแห่งแรกของประเทศแล้ว ที่จามจุรีสแควร์ ยังเป็นที่แรกที่มีสถานีจักรยาน ในโครงการ “ปันปั่น” ด้วยค่ะ ก็เป็นโครงการที่สนับสนุนให้คนในกรุงเทพขับจักรยานให้มากขึ้นนะคะ ก็สามารถมาใช้บริการกันได้นะคะ สนใจอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่
กลับมาเริ่มเดินทางกันต่อ จากหน้า MRT สามย่านประตู 1 เราเลี้ยวขวา เดินตรงไปประมาณ 180 เมตรก็จะถึงโครงการ Ashton จุฬา – สีลม แล้วค่ะ ไปดูกันนะคะ ว่าระหว่างทางมีอะไรบ้าง
ติดๆกันกับ MRT สถานีสามย่าน จะมีวัดหัวลำโพงอยู่ ถือเป็นไฮไลท์อย่างนึงของสถานีนี้นะคะ เพราะเป็นวัดที่เปิดตอนกลางคืนด้วย เป็นที่นิยมของหนุ่มสาววัยทำงานทั้งหลายที่อยากทำบุญกัน เพราะมาได้ง่าย และเปิดจนดึก
ภายในวัดหัวลำโพงก็มีกิจกรรมที่น่าสนใจหลายอย่างค่ะ นี่เราไปถ่ายมาแต่จุดฮิตๆแล้วรวมภาพมาให้ดูนะคะ เพราะเวลาส่วนตัวเราไป ก็จะไล่ๆตามรูปเลยค่ะ 555+ คือ โอเค เข้าไปซื้อผักเลี้ยงวัวกับควาย ที่นี่จะมีบริจาคเงินไถ่ชีวิตวัวกับควายแล้วเลี้ยงเอาไว้ด้วยค่ะ ต่อด้วยทำบุญบริจาคโลงศพนะคะ พอทำบุญที่นี่จะมีแผ่นกระดาษสีชมพูๆมาให้เอาไปทากาวติดกับโลงไม้ไว้ด้วย เสร็จแล้วก็ไปไหว้พระด้านใน เป็นศาลเจ้าแบบจีนๆหน่อย ด้านในจะมีศาลเจ้าพ่อเสือให้เสี่ยงเซียมซีด้วย
จากวัดหัวลำโพง ถัดมาจะเป็นวินมอเตอร์ไซค์ ชื่อวินวัดหัวลำโพงค่ะ ตรงนี้ห่างจากที่ตั้งโครงการแอชตันแค่ประมาณ 130 เมตรนะคะ เวลารีบไปไหนในเวลาเร่งด่วนเดินมาใช้พี่วินตรงนี้ได้เลย
ราคาวินค่ะ เริ่มต้นที่ 20 บาท ไปช้อปปิ้งสยามหรือมาบุญครอง 40 บาท ไปหาอาหารญี่ปุ่นๆกินที่ซอยธนิยะ 20 บาท
ถัดมาเป็นท่ารถเมล์สาย 45 สำโรง – ท่าน้ำสี่พระยา จากตรงนี้จะเห็นป้ายบิลบอร์ดโครงการ Ashton จุฬา – สีลม และร้าน Too Fast To Sleep ที่อยู่ติดกับที่ดินโครงการแล้วค่ะ
เดินตรงมา ผ่านที่จอดรถของ MRT ไป
ก็จะเป็นร้าน Too Fast To Sleep แล้วค่ะ ก็ถือเป็นร้านสุดฮิตของคนนอนดึก และถือเป็นไฮไลท์ของ MRT สามย่านอีกจุดนะคะ เพราะเป็นร้านกาแฟที่เปิดทั้งคืน จึงกลายเป็นจุดนัดพบของแก๊งอ่านหนังสือ ปั่นงานส่ง หรือติวสอบโต้รุ่งต่างๆ ร้านนี้อยู่ติดโครงการ Ashton จุฬา – สีลม เลยค่ะ เราพาเข้าไปดูกันหน่อยดีกว่า
ชั้นล่างของร้าน Too Fast To Sleep นี่ก็มีร้านอาหารอยู่หลายร้านนะคะ เข้ามานี่จะเจอร้านส้มตำแม่นิดก่อนเลย ใครชอบกินส้มตำมาอยู่ตรงนี้ก็เดินมากินได้สบายๆ
ติดๆกับร้านส้มตำแม่นิดจะเป็นร้านข้าวมันไก่ ราคาก็จานละ 40 – 70 บาทนะคะ มีทั้งไก่ต้มไก่ทอด
แล้วก็ยังมีร้านก๋วยเตี๋ยว รส ดี เด็ด จากสามย่าน ก๋วยเตี๋ยวราคาเริ่มที่ถ้วยละ 40 บาท มีก๋วยเตี๋ยวเนื้อเซอร์ลอยด์ถ้วยละ 100 บาทด้วย ก็น่าลองดีเหมือนกันนะคะ
เข้ามาในร้าน Too Fast To Sleep ชั้นล่างก็จะมีขายทั้งกาแฟ ไอศครีม และขนม แต่ทั่วไปแล้วคนจะไปนั่งกันชั้นบนมากกว่าค่ะ
ชั้นบนเป็นแบบนี้ค่ะ นี่เราไปถ่ายวันธรรมดา ตอนกลางวันนะคะ เป็นร้านที่เข้ามาทีไรก็เจอคนเยอะอยู่ตลอด บรรยากาศก็แบบนี้ล่ะค่ะ ทำงานไปหิวก็สั่งน้ำสั่งขนมกินไป
ติดถนนใหญ่พระราม 4 ระหว่างที่ตั้งโครงการ Ashton จุฬา – สีลม กับร้าน Too Fast Too Sleep จะมีป้ายรถเมล์อยู่ค่ะ
สายรถเมล์ที่ผ่านป้ายหน้าโครงการ
ตรงนี้ด้านหลังป้ายรถเมล์มาจะเป็นส่วนของโครงการ Ashton จุฬา – สีลมแล้วค่ะ
ตอนนี้ที่ดินโครงการ Ashton จุฬา – สีลม กำลังถูกเคลียร์ฐานอยู่นะคะ แต่เราถ่ายจากด้านนอกมาให้ดู จะเห็นว่าด้านหลังที่ดินโครงการเป็นวิวของโรงแรมมณเฑียร ซึ่งจะมีส่วนที่สูง 20 ชั้น และส่วนที่สูง 8 ชั้นอยู่นะคะ ไกลออกไปหน่อยจะเห็นโรงแรมเลอ เมอริเดียน สูง 24 ชั้น อันนี้รอบที่ดินโครงการติดอะไรบ้างนั้นเดี๋ยวเราอธิบายในผังอีกทีค่ะ
ติดๆกับรั้วล้อมที่ดินโครงการจะเป็นส่วนของสำนักงานขายค่ะ
สำนักงานขายเปิดทุกวันตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึง 6 โมงเย็นค่ะ เข้าไปดูข้างในกันต่อ
เข้ามาจะเจอส่วนเคาเตอร์ต้อนรับ ของ Ashton จุฬา – สีลมอยู่ พร้อมที่นั่งรับรองหลายชุด สำนักงานขายตกแต่งมาในโทนสี ทอง ขาว น้ำตาล เทา ตามสไตล์ Modern Luxury & Eclectic ซึ่งเป็นแนวที่เน้นการผสมผสาน ใช้วัสดุที่หลากหลาย ไม่ว่าจะสีทองเงาวาว หนังสีน้ำตาลด้าน หรือพื้นหินอ่อนลายเส้นสีขาวเบจ ทำให้ลุคที่ออกมาดูหรูหราและทันสมัย
สำนักงานขายของอนันดาส่วนใหญ่จะจำลองอินทีเรียส่วนล็อบบี้ของโครงการมานะคะ ซึ่งที่นี่ก็เช่นกันค่ะ
มองไปอีกด้านจะเป็นส่วนของ Model โครงการ และหน้าจอ Presentation เดี๋ยวส่วนโมเดลนี่เราพาไปอธิบายเจาะกันอีกทีนะคะ ตอนนี้พาชมสำนักงานขายกันก่อน
ส่วนจอ Presentation เป็นแบบสกรีนทัชค่ะ กดดูเองได้นะ แต่แนะนำว่าให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายขายแนะนำก็ดีค่ะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายที่นี่ข้อมูลแน่นและมี Service mind ดี
ตรงข้ามโมเดลจะมีที่นั่งสำหรับ 2 คนมาให้
สุดฝั่งสำนักงานขายมียกพื้นจัดที่นั่งไว้ให้อีกชุดแบบนี้
สถานที่สำคัญรอบโครงการ
- ร้าน Too Fast To Sleep 20 เมตร
- วัดหัวลำโพง 180 เมตร
- จามจุรี สแควร์ 350 เมตร
- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 800 เมตร
- โรงเรียนสาธิตจุฬาฯ 1.5 กิโลเมตร
- เซ็นทรัลเวิลด์ 2.3 กิโลเมตร
- สยามพารากอน 2.4 กิโลเมตร
- สยามเซ็นเตอร์ 2.5 กิโลเมตร
- โรงพยาบาลจุฬาฯ 2.5 กิโลเมตร
- มาบุญครอง 2.6 กิโลเมตร
- สวนลุมพินี 3.3 กิโลเมตร
ตัวโครงการ
Model ที่นี่จะมีให้ดู 2 ตัวนะคะ ตัวแรกเป็น Model จำลองทั้งตึก อีกตัวจำลองตั้งแต่ชั้น 48-56 หรือช่วงบนของตึกซึ่งเป็นส่วนของพื้นที่ส่วนกลางชั้นบน ตอนนี้เรามาดูตัวแรกที่จำลองทั้งตึกกันก่อนนะคะ
โครงการมีทางเข้าออกอยู่ที่ถนนพระราม 4 ค่ะ ถนนรอบโครงการกว้าง 6 เมตร เข้าออกด้วยระบบ Access Card แบบระยะใกล้ มี Drop Off ให้วนรถส่งคนลงที่หน้า Lobby และวนไปจอดรถที่ด้านหลังโครงการ จอดรถได้ชั้น 1 – 6
ด้านหน้า Lobby ชั้นล่าง จะเป็นส่วนของพื้นที่สีเขียวที่คั่นอยู่ระหว่าง Lobby อาคารและใหญ่พระราม 4 มีการปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ความรู้สึกเขียว ร่มรื่น และ ยังเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับตัว Lobby ด้วยค่ะ สนามหญ้าออกแบบมาเป็นแบบขั้นบันได ล้อไปกับสวนขั้นบันไดด้านบนโครงการในชั้น 7
เอาภาพจำลองทางเข้าโครงการมาให้ดูค่ะ จะเห็นว่ากำแพงด้านหน้าโครงการเป็นกำแพงทรงโค้งนำสายตาลาดขึ้นไปที่ประตูทางเข้า กำแพงกรุด้วยแผ่นหินสีขาวลายเดียวกันกับพื้น จะเห็นจากภาพว่าเน้นความเขียวชอุ่ม ร่มรื่นของต้นไม้ ทั้งที่สวนชั้นล่างและสวนขั้นบันไดชั้น 2 – 6 ด้วย
ภาพจำลองสวนด้านหน้าโครงการ มีต้นไม่ใหญ่หลายต้นและไม้พุ่ม พร้อมทั้งปูสนามหญ้าแบบขั้นบันไดบนทางลาดขึ้นเขา และมีที่นั่งเอาไว้ให้นั่งเป็นจุดๆ เหมาะเป็นที่เดินเล่นหรือนั่งเล่นของคนในโครงการ โดยมีบันไดหินเป็นทางขึ้นอยู่ด้านข้าง และปลูกต้นไม้ไล่ระดับตาม
ที่จอดรถ จอดได้ตั้งแต่ชั้น 1 – 6 ค่ะ คิดเป็นประมาณ 47% ไม่ Fix ที่จอดนะคะ โดยห้องแบบ Studio กับ 1 Bedroom จอดได้ 1 คัน, 2 Bedrooms จอดได้ 2 คัน
ด้านหลังอาคารค่ะ สังเกตว่ากำแพงชั้น 1 – 6 ที่เป็นส่วนที่จอดรถจะมีแนว Vertical Garden หรือสวนแนวตั้งอยู่
โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีพื้นที่สีเขียวโดยรวมประมาณ 10,000 ตร.ม. ที่นอกจากพื้นที่สีเขียวชั้น 1 หน้า Lobby และสวนชั้นดาดฟ้าแล้ว ที่ชั้น 7 ก็จะมีพื้นที่สีเขียว ปลูกไม้ยืนต้น ปูสนามหญ้า และมี Sunken court มาเป็นขั้นบันได เอาไว้ให้นั่งด้วยค่ะ จะเห็นดีไซน์ได้จากในโมเดลนะคะ นอกจากนี้ตั้งแต่ชั้น 2 – ชั้น 7 ก็เป็นสวนขั้นบันไดสีเขียวขนาดใหญ่ไล่ลงมา ทำให้ดูร่มรื่นไปด้วยต้นไม้เป็นพื้นที่สีเขียวขนาดใหญ่แบบมองเห็นจากภายนอกโครงการเลยค่ะ
นอกจากนี้โครงการขอใช้หลอดประหยัดไฟทั้งอาคาร และใช้พลังงานแสงอาทิตย์ด้วยค่ะ ก็เป็นแนวคิดแบบ Eco ที่ช่วยประหยัดพลังงานได้ส่วนนึง
ไฮไลท์อีกอย่างของตัวอาคาร Ashton จุฬา – สีลม คือที่ส่วนมุมของอาคารที่นี่จะใช้กระจกโค้งที่ทำให้วิวที่มองผ่านกระจกไร้รอยต่อ เป็นวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่า และส่วนระนาบอาคารปกติก็เป็นกระจกเนื่องจากที่ระเบียงอาคารจะมีกระจก 2 ชั้นด้วยค่ะ ซึ่งนับเป็นการออกแบบเพื่อฟังก์ชั่นภายในที่มีผลทำให้เปลือกภายนอกอาคารดูหรูหราไปด้วย
สังเกตมุมตรงกลางอาคารจะมี Atrium ที่เป็นเหมือนระเบียงออกมาจากโถงทางเดิน มีที่นั่งเล่นและต้นไม้มาให้ทุกๆ 5 ชั้นด้วยค่ะ ชั้นที่มี Atrium จะเป็นชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 และเลข 7 นะคะ
ส่วนยอดอาคารตั้งแต่ชั้น 48-56 หรือส่วนพื้นที่ส่วนกลางกับโซนไฮจะมีโมเดลขยายให้ดูอีกทีนะคะ ไปดูกันเลยค่ะ
เรามาดูที่ Model พื้นที่ส่วนกลางชั้นบนกันต่อ ซึ่งส่วนกลางของอาคารจะอยู่ในชั้น 48-49 เต็มๆ 2 ชั้นเลยค่ะ เพราะเป็นโครงการใหญ่ที่มีจำนวนยูนิตพักอาศัยถึง 1,180 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางที่ได้จึงมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย เดี๋ยวเราพาไล่ดูกันไปเป็นส่วนๆนะคะ
สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือ ขนาด 6 x 50 เมตร ลึก 1.2 เมตร เราซูมให้เห็นดีไซน์ของตัวสระใกล้ๆนะคะ สังเกตว่าขอบของสระก็จะเป็นแบบโค้งมน เข้ากับดีไซน์ของตัวอาคารนะคะ ธีมสระเป็นสีขาวเรียบหรู มีทางเดินรอบๆ บนสระก็มีที่นั่งให้เป็นจุดๆ ส่วนสระด้านหน้าที่อยู่ฝั่งถนนพระราม 4 จะเป็นอ่าง Jacuzzi มีที่นั่งในสระให้ด้วย
สระเป็นแบบเล่นระดับดูแปลกตาดีค่ะ อย่างส่วนสระด้านบนสองสระจะเป็นสระ Onsen ซะด้วย ใครชอบแช่น้ำอุ่นน่าจะถูกใจกันนะคะ ก็เป็นฟังก์ชั่นหายากที่ทั่วไปไม่ค่อยเห็นนะคะ
ด้านหลังจะมีส่วนของสระเด็กลึก 0.5 เมตร
ส่วน Business Lounge จะเป็นกระจกสูงจรดเพดานและส่วนมุมโค้งได้วิวแบบพาโนรามาและได้มุมมองที่เห็นสระว่ายน้ำรอบด้านแบบนี้เลยค่ะ
ภาพจำลองส่วน Business Lounge ค่ะ ดูเป็นบรรยากาศแบบจิบไวน์ชมวิวเมืองอะไรแบบนี้
ภาพจำลองส่วน Social Club ที่จะมี Piano วางไว้ให้เล่นและบาร์มาให้สำหรับผสมค็อกเทลเองด้วยค่ะ คือไม่มีบาร์เทนเดอร์มาให้นะคะ ต้องผสมเอง แต่ก็เตรียมพื้นที่สำหรับกิจกรรมได้น่ามาใช้งานดี
ส่วนห้อง Fitness ให้มา 2 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาด 5 x 15 เมตร หันไปด้านทิศใต้ ซึ่งเป็นส่วนด้านหลังโครงการ
ส่วนห้อง Fitness 2 ชั้น จึงมีเครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 เครื่อง ผนังของอาคารเป็นกระจกเต็มบานทั้งหมด จึงออกกำลังกายไปพร้อมมองวิวเมืองฝั่งสีลม สาทรไปด้วยได้ค่ะ
ภาพจำลองห้อง Fitnessชั้น 48 เพราะจะเห็นว่ามีบันไดให้เดินขึ้นไปชั้น 49 นะคะ ผนังห้องเป็นกระจกเต็มบานจึงสามารถออกกำลังกายไปชมวิวเมืองไปได้
เอาวิวพาโนราม่าจากโครงการแต่ละด้านมาให้ชมกันค่ะ เป็นวิวจากมุมสูงนะคะ เทียบได้กับตึกชั้น 26 ขึ้นไป
ด้าน NW หรือวิวทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของโครงการ จะเป็นวิวเมืองฝั่งถนนพระราม 4 ค่ะ ที่มุมซ้ายล่างของภาพจะเห็นวัดหัวลำโพง ตึกใหญ่ๆขวาสุดของภาพคือ จามจุรีสแคว์ (40 ชั้น) และตึกสีขาวตรงกลางภาพคือ จามจุรีเรสซิเดนซ์ (24 ชั้น)
ด้าน NE หรือ วิวทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการ ขวาบนของภาพจะเห็นสวนสาธารณะลุมพินีและวิวเมืองฝั่งรัชดาภิเษก, สุขุมวิท
ด้าน SE หรือ วิวทิศตะวันออกเฉียงใต้ของโครงการ จะเป็นวิวเมืองฝั่งสีลมค่ะ
ด้าน SW หรือ วิวทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของโครงการ จะเห็นวิวเมืองฝั่งธนบุรี
ผังโครงการ
มาดูผังโครงการกันต่อค่ะ จากถนนพระราม 4 ผ่านซุ้มประตูทางเข้าโครงการมา จะมีสวนอยู่ทางขวามือ เข้ามาจะมี Drop off หน้า Lobby ตรงฝั่งติดสวนเป็น Retails 2 ห้องนั้น เท่าที่ถามมามีแผนจะเป็นร้านกาแฟสตาร์บั๊คทั้งคู่นะคะ เพราะสตาร์บั๊คนี่จะต้องมีความกว้างมากพอให้ได้มาตรฐานของสตาร์บั๊คด้วย Ratailsเลยอาจเป็นสตาร์บั๊คทั้งสองห้องเลย ซึ่งก็จะเป็นอารมณ์แบบร้านกาแฟวิวสวน คนในโครงการก่อนไปทำงานก็ลงมาสั่งกาแฟสตาบั๊คกินได้สบายๆ ไฮโซวทีเดียว แต่มันก็ยังเป็นแค่แผนที่เราได้ยินมานะ ยังไงต้องรอดูสรุปกันอีกทีค่ะ
ที่จอดรถด้านข้างอาคารที่มีทั้งที่จอดรถขนาดปกติและขนาดใหญ่หน่อยสำหรับรถ Super Car และมีจุดชาร์จแบตรถไฟฟ้าด้วยค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการขนาดใหญ่ จำนวนยูนิตเยอะ โครงการมีลิฟต์โดยสารให้ทั้งหมด 7 ตัว ลิฟต์บริการ 1 ตัวติดกับส่วนห้องทิ้งขยะ (G) และส่วนห้องงานระบบ (M&E) ทำให้แม่บ้านขนย้ายขยะลงมาทางนี้ได้ง่าย ไม่กวนส่วนลิฟต์โดยสาร
ส่วนที่พักอาศัยเริ่มที่ชั้น 7 ค่ะ ความหนาแน่นค่อนข้างต่ำเพราะมียูนิตเพียง 15 ยูนิต และเป็นชั้นที่มีทางเดินออกมาสวนด้วยค่ะ นอกจากนี้ก็จะมีส่วนงานระบบค่อนข้างใหญ่ แยกส่วนออกมาให้ช่างเข้ามาบำรุงรักษาได้โดยไม่ต้องผ่านส่วนพักอาศัย ห้องฝั่งที่อยู่ติดสวนมีข้อดีคือได้วิวสวน ข้อเสียคือเสียงรบกวนจากสวนค่ะ เวลามีคนมาใช้งานเยอะๆ แต่โครงการปลูกต้นไม้ทำ Buffer ไว้ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัวและช่วยกันเสียงรบกวนไปได้ส่วนนึงค่ะ
ชั้น 8 ผังของส่วนห้องพักอาศัยจะไม่ต่างกับชั้น 7 ค่ะ โดยมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 16 ยูนิต แต่ห้องงานระบบจะเปลี่ยนเป็นที่ว่าง เพราะชั้น 7 เป็นแบบ Double ceiling หรือแบบเพดานสูง ถือเป็นชั้นที่เงียบสงบและความหนาแน่นต่ำนะคะ เพราะไม่มีส่วน งานระบบและพื้นที่ส่วนกลาง จึงไม่มีคนนอกมาวุ่นวายให้ได้ยินเสียงใกล้ๆ
ชั้น 9 – 21 จะเป็นส่วนที่พักอาศัยทั้งหมด มีชั้นละ 27 ยูนิต ที่ชั้น 12, 17, จะมีส่วน Atrium อยู่ตรงส่วนใกล้โถงลิฟต์อย่างในภาพผังค่ะ ก็คือทุกห้าชั้นจะมีระเบียงใกล้โถงลิฟต์มาให้
ชั้น 22 – 47 เป็นชั้นที่มียูนิตของห้องพักสูงสุดคือ 28 ยูนิตค่ะ การวางผังห้องพักเหมือนชั้น 12, 17 ที่มี Atrium เพิ่มขึ้นมาทุก 5 ชั้น หรือชั้นที่ลงท้ายด้วยเลข 2 และเลข 7 และมีห้องแบบ 2 ห้องนอนหรือห้อง Type B1 ขนาด 55 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นมา
ชั้น 48 เป็นพื้นที่ส่วนกลางชั้น โดยออกจากลิฟต์มาจะสามารถเดินออกไปยังสระว่ายน้ำระบบเกลือ ในสระมีส่วนสระ Onsen เล่นระดับกัน 2 สระ สระเด็กด้านหลัง และสระ Jacuzzi ด้านหน้า
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งจะเป็น Outdoor deck หรือที่นั่งพักผ่อนกลางแจ้ง แบ่งโซนกันด้วยไม้พุ่มสีเขียว ด้านหลังเป็นส่วนของห้องฟิตเนส 2 ชั้น แต่ละชั้นมีขนาด 5 x 15 เมตร รวมเครื่องออกกำลังกายประมาณ 20 เครื่อง ริมสุดมาเป็น Social Club & Wine Bar เป็นห้อง Double space โอ่โถงที่สามารถมานั่งดื่มเบาๆ นั่งคุยกันพร้อมมองวิวเมืองแบบมุมกว้างได้ หน้าห้องมีโถงลิฟต์ซึ่งเป็นทางขึ้นลงอาคารได้อีกทาง
ชั้น 49 ออกจากลิฟต์มาจะเจอห้อง Business Center ค่ะ ใช้เป็นห้องนั่งจิบไวน์ คุยงาน ชมวิวเมืองได้ ล้อมรอบด้วยบรรยากาศสระน้ำเล่นระดับ ถือว่าเป็นมุมที่บรรยากาศดีทีเดียว ถัดจากลิฟต์มาอีกด้านจะเป็นห้องสมุด ที่เชื่อมต่อกับห้องฟิตเนสชั้น 2
ถัดมาเป็นส่วนยอดของอาคารแล้วค่ะ ก็คือชั้น 50 – 56 ซึ่งจะเป็นส่วนที่พักอาศัยนะคะ ความหนาแน่นยูนิตคือ 10 ยูนิตต่อชั้นค่ะ จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom 34.5 ตร.ม.ไปแล้ว 9 ห้อง อีกห้องเป็น 2 Bedroom 66 ตร.ม. ค่ะ เรื่องวิวของชั้นที่สูงแบบนี้จะเป็นวิวที่มองออกไปได้ไกลเลยค่ะ ไม่มีอะไรบังน่าจะสวย และเป็นโซนที่มีความเป็นส่วนตัวสูง
ห้องตัวอย่าง
จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 3 แบบ ซึ่งเราจะพาไปสำรวจกันทุกห้องนะคะ โดยเริ่มจากห้อง Type D 1 ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 30.5 ตร.ม. กันก่อน เป็นห้องหน้ากว้าง 4.8 เมตร ลึก 6.1 เมตร ตัวห้องแบ่งโซน Public กับ Private ชัดเจนนะคะ คือเข้ามาจะเป็นส่วนครัว ต่อไปที่ห้องนั่งเล่น ฝั่งนึงเป็น Public ไปเลย
อีกฝั่งเป็นส่วนห้องนอน ระเบียง และห้องน้ำ จะมีฉากกั้นห้องมาให้ ถ้าต้องการความเป็น Private ก็เลื่อนฉากมากั้นปิดระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่นได้ ส่วนระเบียงมีฉากกั้น 2 ชั้น เพื่อให้ใช้ประโยชน์พื้นที่ได้เต็มที่ แม้เวลาเปิดแอร์ และกั้นห้องสำหรับเก็บแอร์คอมเพรสเซอร์มาให้เป็นสัดส่วน ห้องตัวอย่างจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ
เข้ามาจะเป็นส่วนครัว มองไปเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้
พื้นส่วนครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 30 x 60 cm. ส่วนพื้นห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเป็น Engineering Wood จบพื้นด้วยอลูมิเนียมลบมุมมาให้เรียบร้อยดี
ชุดครัว Built-in นี่จะได้มากับห้องด้วยนะคะ เป็นชุดครัวขนาดเล็ก มีชั้นลอยให้เก็บของ มีเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจาน พร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้า และลิ้นชักเก็บของ เดี๋ยวเรามาไล่ดูกันไปทีละส่วนนะคะ แต่หลังเคาเตอร์ครัวที่เห็นปูกระเบื้องนั้นของจริงจะเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีเฉยๆนะคะ ไม่มี Back Splash กันเปื้อนมาให้ อันนี้ถ้าทำกับข้าวบ่อยแนะนำให้ติดเพิ่มค่ะ แต่ที่ผนังจะเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้
ชั้นลอยด้านบนทำเป็นหน้าบานไม้วีเนียร์สีน้ำตาลอมเทามา เปิดปิดมี Soft closed ไม่มีเสียงดัง ตัวชั้นสามารถใช้วางเตาไมโครเวฟ จาน ขวด แก้วน้ำได้ มีความลึกมากพอค่ะ ส่วนบานใหญ่ด้านบนจะเป็นตู้ซ่อนแผงงานระบบไฟ
วัสดุท้อปเคาเตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีเทา เตาเป็นเตาไฟฟ้าแบบสองหัว
อ่างล้างจานทำฝามาให้ปิดเปิดได้ค่ะ ช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีนะคะ ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารเพิ่มเวลาไม่ล้างจาน
พอเวลาจะล้างจานก็เปิดออกมาแบบนี้ เป็นอ่างสแตนเลสหลุมเดียวค่ะ
เปิดส่วนที่เก็บของล่างเคาเตอร์ให้ดูนะคะ มีส่วนลิ้นชักเก็บช้อนส้อมพร้อม Slot มาให้ และส่วนตู้เก็บขวดเครื่องปรุงต่างๆ ใต้อ่างล้างจานมีที่เก็บของพร้อมถังขยะใบเล็กมาให้อีกอัน
ส่วนตู้เย็นและตู้ใส่ของไม่ได้ให้มานะคะ แต่วางมาให้ดูระยะใช้งานเฉยๆ
ซึ่งพอวางชุดครัวและวางตู้เย็นแล้ว จะเหลือพื้นที่ทางเดินประมาณ 1 เมตรค่ะ ถัดจากส่วนครัว ห้องตัวอย่างวางโต๊ะกินข้าวแบบ 2 ที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งาน ถ้าอยู่จริง แนะนำให้เลือกเก้าอี้ที่ดันเข้าไปเก็บใต้โต๊ะเวลาไม่ใช้งานได้นะคะ จะได้ไม่เกะกะทางเดิน แต่จะเห็นว่าต่อให้เป็นเก้าอี้ที่เก็บใต้โต๊ะไม่ได้อย่างในห้องตัวอย่างก็ยังมีระยะเดินไปมาพออยู่ดีค่ะ
เพดานห้องสูง 2.7 เมตรนะคะ แต่ส่วนครัวจะสูง 2.6 เมตร คอนซีลแอร์มาให้ ของจริงได้ตามที่เห็นค่ะ ผนังห้องของจริงจะได้เป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีขาวอมเทานะคะ ส่วนประตูทางเข้าห้องตัวอย่างไม่มีมาให้ แต่ของจริงเป็นประตูกรุไม้วีเนียร์ มี Digital Door Lock มาให้
ส่วนห้องนั่งเล่นจัดเป็นโซฟาแบบ 2 ที่นั่ง โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ จะเห็นว่าเหลือระยะเดินรอบๆได้ ถัดจากโซฟายังมีพื้นที่พอให้วางอาร์มแชร์กับโต๊ะข้างได้อีกชุด ตรงอาร์มแชร์ริมหน้าต่างนั้นถ้าใครชอบออกกำลังกายก็มีระยะพอวางลู่วิ่งไฟฟ้า หรือ เครื่องออกกำลังกายอื่นๆได้นะคะ แบบว่าออกกำลังกายไป ดูทีวีไป อะไรยังงี้
สุดผนังห้องนั่งเล่นเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง กระจกลามิเนต กรอบอลูมิเนียมโทนสีเทาเข้ม (ไม่ใช่ดำธรรมดาๆนะ) ไฟดาวน์ไลท์ ฝ้าดรอปซ่อนรางม่านของจริงได้ตามนี้นะคะ
ห้องตัวอย่างติดม่านสองชั้นมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ของจริงจะได้รางม่านพร้อมผ้าม่านชั้นนอกชั้นเดียวค่ะ
ข้างส่วนห้องนอนจะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้ ที่ราวกันตกจะมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกกั้นอีกชั้นนะคะ ถ้าเปิดแอร์ก็สามารถใช้พื้นที่ส่วนนี้ได้ ถ้าจะตากผ้าหรืออยากรับลมก็เปิดหน้าต่างออกได้ พื้นที่ระเบียงขนาดประมาณ 1.2 x 0.8 m.พอวางโต๊ะหรือเก้าอี้เล็กๆได้อย่างละตัว จากระเบียงนี่ของจริงจะมีประตูเปิดไปห้องเก็บแอร์คอมเพรสเซอร์นะคะ ในห้องตัวอย่างไม่มีค่ะ แต่จะเห็นได้จากในผังห้อง
ด้านหลังส่วนห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนค่ะ ห้องตัวอย่างวางเตียงแบบ 5 ฟุตมา แต่ของจริงวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้นะคะ ยังมีที่พอเดินรอบๆได้อยู่ แต่อาจจะไม่มีที่วางโต๊ะข้างอย่างในห้องตัวอย่างนะคะ อันนี้บอกไว้เป็นข้อมูลสำหรับคู่ที่ชอบนอนสบายๆเตียงใหญ่ๆหน่อย ก็สามารถนะคะ
พอเลื่อนฉากกั้นห้องมาปิดจะเป็นแบบนี้ค่ะ ฉากกั้นห้องเป็นไม้วีเนียร์สามตอน
ฉากกั้นห้องเป็นแบบแขวนรางบนนะคะ ข้อดีคือไม่มีรางที่พื้นให้สะดุดและทำความสะอาดพื้นได้ง่าย มือจับเป็นสแตนเลสแบบนี้
จากเตียงมองไปที่ชั้นวางทีวีเป็นแบบนี้ค่ะ ก็คือสามารถนอนดูทีวีจากบนเตียงได้เลย ทีวีอยู่ตำแหน่ง center กับเตียงและโซฟาพอดี
จากเตียงมองไปที่ทางเข้าห้องน้ำค่ะ
พื้นที่ข้างเตียงกว้างประมาณ 1.2 เมตร วางโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ เราเปิดบานตู้เสื้อผ้าให้ดูจะเห็นว่าขวางทางเข้าห้องน้ำอยู่นะคะ ก็ต้องทำทีละอย่างไป หรือไม่ก็หาตู้ที่เปิดแบบบานเลื่อนแทน
ตู้เสื้อผ้าไม่มีมาให้นะคะ ต้องหาเอง แต่ขนาดที่วางตู้เสื้อผ้า ถ้าอยู่กันสองคนก็มีที่เก็บเสื้อผ้าน้อยไปหน่อยค่ะ อาจต้องเอาโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงานออก แล้วเพิ่มราวแขวนเสื้อผ้าเข้าไปแทน
สังเกตว่าที่ผนังใต้โต๊ะเตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟไว้ให้นะคะ
เข้าไปดูในห้องน้ำกันต่อค่ะ พื้นห้องน้ำลดระดับลงมาจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 cm. ปูแกรนิตโต้ผิวด้านสีเทาเข้มขนาด 30 x 60 cm. สุขภัณฑ์เป็นของ Kohler ผนังปูแกรนิตโต้สีเทาขนาด 30 x 60 cm. จรดเพดาน ที่เพดานเหนือโถสุขภัณฑ์จะมีพัดลมดูดอากาศอยู่
ท้อปอ่างล้างมือเป็นหินสังเคราะห์ลายเทาขาวดำสวยดีค่ะ กระจกเงาติดมาให้เต็มความกว้างท้อปอ่างล้างมือ และสูงจรดเพดาน
อ่างล้างมือเป็นทรงสี่เหลี่ยมขอบโค้ง ขนาดค่อนข้างใหญ่นะคะ เราเทียบขนาดกับฝ่ามือให้ดู
ฉากกั้นห้องน้ำเป็นกระจกเทมเปอร์ วางบนธรณีก่อสูงประมาณ 5 cm.
ฝักบัวมีทั้งแบบ Rain Shower ติดกับเพดาน และฝักบัวแบบถืออาบ
เทียบขนาดฝักบัวกับมือให้ดูค่ะ จะเห็นว่าใหญ่ใช้ได้ ที่ผนังข้างๆก็อกฝักบัว มีที่วางสบู่อาบน้ำมาให้ วางได้ 1 ขวด ใครอุปกรณ์เยอะ อาจต้องติดชั้นเพิ่มหรือวางพื้นเอานะคะ
ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูกันถัดมาคือห้อง Type C1 ขนาด 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 34.5 ตร.ม. เป็นห้องหน้ากว้างประมาณ 5.5 เมตร ลึก 6.8 เมตร ซึ่งจริงๆการจัดโซนนิ่งนี่เหมือนๆกันกับห้องแรกที่พาไปชมเลยค่ะ แต่พื้นที่ที่มากขึ้นทำให้มีระเบียงที่ใหญ่ขึ้น ที่ข้างเตียงเยอะขึ้น และทางเดินส่วนครัวและห้องนั่งเล่นกว้างขึ้นนิดหน่อยค่ะ ส่วนที่ต่างกันจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลย
ทางเข้าเปิดมาเป็นส่วนครัวมองไปเห็นห้องนั่งเล่นเหมือนกัน
ชุดครัวนี่ได้แบบเดียวกัน
วัสดุห้องและความสูงเพดานเป็นแบบเดียวกับห้องแรกที่พาไปชมกันทุกอย่างค่ะ
ส่วนห้องนั่งเล่นจัดเหมือนๆกัน แต่ห้องนี้จะลึกกว่าหน่อยค่ะ จะเห็นว่าผนังฝั่งตรงข้ามกับโต๊ะกินข้าวมีระยะพอวางชั้นหรือตู้เสื้อผ้าเพิ่มได้
มีประตูเปิดออกไประเบียง ขนาดกว้างขึ้น เป็นประตูบานเลื่อนแบบสามตอน
ที่ระเบียงมีระยะพอวางเก้าอี้อาร์มแชร์ขนาดกระทัดรัดได้คู่นึง และโต๊ะข้างอีกตัวได้ หลังราวกันตกมีหน้าต่างบานเลื่อนกระจกกั้นอีกชั้นเหมือนกันกับห้องแรก
ส่วนห้องนอนค่ะ มีกั้นห้องแบบเดียวกันกับห้องแรกที่พาไปดูเลยค่ะส่วนที่ต่างกันคือพอมีความลึกมากกว่า ก็มีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น
ข้างเตียงฝั่งติดหน้าต่างของจริงจะเป็นมุมว่างๆยุบเข้าไปนะคะ ในห้องตัวอย่างใช้พื้นที่นี่เป็นอาร์มแชร์ บางคนอาจทำเป็นโต๊ะเขียนหนังสือแทนได้
ผนังข้างๆติดทีวีมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่ของจริงจะทำ Built in เป็นชั้นวางของเพิ่มก็ได้
ข้างเตียงอีกฝั่งทางไปห้องน้ำ ห้องน้ำได้เหมือนกันกับห้องแรกที่พาไปชมทุกอย่างนะคะ
ที่โต๊ะหน้าห้องน้ำส่วนนี้ก็เตรียมเต้าเสียบปลั๊กไฟมาให้เหมือนกันค่ะ
ห้องตัวอย่างห้องสุดท้ายที่จะพาไปสำรวจกันคือห้อง Type A1 ขนาด 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 63 ตารางเมตร หน้ากว้าง 6.9 ลึก 9.3 เมตร ฝ้าเพดานสูง 2.7 เมตร เป็นห้องที่เหมาะมากสำหรับคู่แต่งงานใหม่ หรือพี่น้องอยู่ด้วยกันนะคะ เพราะขนาดห้องนอนที่ได้ทั้งสองห้องจะพอๆกันเลย แต่ Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัวให้ ส่วนห้องนอนเล็กจะติดกับห้องน้ำที่ใช้ร่วมกับห้องนั่งเล่น ส่วนฝั่งตรงข้ามก็มีระเบียงอยู่ ส่วนห้องนั่งเล่นและครัว นั้นมีพื้นที่ที่สามารถกั้นเป็นสัดส่วนได้ หรือจะปล่อยโล่งก็ดูกว้างขวางดี ระยะกำลังน่าสบายค่ะ ผนังกระจกโค้งก็ทำให้เห็นวิวแบบพาโนราม่าดูหรูหราไม่เหมือนใคร ตัวห้องจะเป็นอย่างไรไปชมกันเลยค่ะ
เข้ามาจะเป็นโถงทางเดินยาวๆแบบนี้ค่ะ ห้องแรกด้านซ้ายมือเป็นห้องนอน Master Bedroom ช่องถัดไปฝั่งซ้ายมือเป็นทางเข้าห้องนอนเล็กและห้องน้ำ ขวามือเป็นประตูเปิดออกไประเบียง และตรงไปจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นค่ะ เดี๋ยวจะพาไล่ดูกันไปทีละอย่างนะคะ
เข้ามาดู Master Bedroom กันก่อน ห้องนอนห้องนี้จะมีห้องน้ำอยู่ในตัวนะคะ
ห้องน้ำมีอ่างอาบนำ้ด้วยค่ะ วัสดุและสุขภัณฑ์จะเป็นแบบเดียวกันกับห้องตัวอย่างอื่นๆนะคะ ต่างกันที่ห้องนี้มีอ่างอาบน้ำ กับขนาดพื้นที่
อ่างอาบน้ำที่อยู่ติดกระจก แบบ Sexy Bath มี Rain Shower และฝักบัวมาให้ ฝักบัวได้ขนาดเท่ากันกับห้องอื่นๆนะคะ ส่วน Rain Shower ห้องนี้จะเป็นแบบติดผนัง ไม่ได้ห้อยเพดานเหมือนห้องอื่น
เพราะเป็นอ่างแบบ Sexy Bath ที่ฝ้าเพดานจะดรอปฝ้าไว้ให้ซ่อนรางม่านได้นะคะ เผื่อบางเวลาไม่อยาก sexy ก็ปิดม่านเอาไว้ได้
อ่างล้างมือท้อปเป็นหินสังเคราะห์สีเดียวกันกับห้องอื่นๆ โถสุขภัณฑ์ก็เป็นของ Kohler แบบเดียวกันค่ะ
แต่กระจกเงาในห้องน้ำได้มากว้างกว่า ก็คือเต็มความลึกผนังและสูงจรดเพดาน เพดานด้านบนโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศมาให้ ไฟเป็นดาวน์ไลท์
ออกจากห้องน้ำจะมีมุมที่เหมาะจะวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า ห้องตัวอย่างวางมาให้ดูระยะใช้งาน แต่ของจริงเป็นผนังเปล่านะคะ
เปิดบานตู้เสื้อผ้ากับประตูให้ดูนะคะ ก็คือพอมีระยะถอย พอมีระยะเดินอยู่ แต่ถ้าใครไม่เอาโต๊ะเครื่องแป้งแต่ำ Builtin ตู้เสื้อผ้าเต็มความกว้างผนังไปเลยแนะนำใช้ตู้แบบบานเลื่อนดีกว่าค่ะ จะได้ไม่เกะกะทางเดิน
สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้ค่ะ มีระยะพอเดินรอบเตียงได้อยู่
หน้าต่างเป็นแบบบานกระทุ้งแบบนี้
มองไปที่ประตู จะเห็นว่าที่เพดานคอนซีลแอร์มาให้เรียบร้อยนะคะ ของจริงได้ตามนี้ ระยะปลายเตียงมีแค่ประมาณ 45 cm. แนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังเหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ จะได้ยังมีที่เดินไปเดินมาได้อยู่
ออกมาจากห้องนอนใหญ่ฝั่งตรงข้ามจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกเปิดออกมาที่ระเบียงค่ะ ระเบียงมีกระจกสองชั้นเหมือนระเบียงห้องอื่นๆนะคะ ระยะพอวางเก้าอี้และโต๊ะข้างได้อย่างละตัว
ถัดมาก่อนถึงห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องน้ำและทางเข้าไปห้องนอนเล็กค่ะ
เดี๋ยวพาเข้าไปดูห้องน้ำกันหน่อย
ห้องน้ำส่วนนี้จะมีอ่างล้างมือแบบเข้ามุมอยู่นะคะ
บนเคาเตอร์อ่างยังวางของรอบๆได้อยู่ แต่เคาเตอร์ค่อนข้างตื้น เลยวางได้เฉพาะด้านข้างค่ะ
ถัดเข้าไปจากโถสุขภัณฑ์จะเป็นส่วนฉากกั้นห้องอาบน้ำค่ะ วางบนธรณีก่อขึ้นมาประมาณ 5 cm. ตัวฉากกั้นเป็นกระจกเทมเปอร์
เหนือโถสุขภัณฑ์มีพัดลมดูดอากาศให้ และ Rain Shower แบบแขวนฝ้าเพดาน
ไปดูส่วนห้องนั่งเล่นและผนังกระจกโค้งไฮไลท์ของห้องกันต่อเลยค่ะ
เนื่องจากผนังเป็นกระจกโค้ง ขอบของพื้นห้อง รวมถึงฝ้าเพดานที่ดรอปมาบังราวม่านและตัวราวม่านเอง จึงเป็นทรงโค้งตามผนังกระจกไปด้วย รวมทั้งแอร์ที่ฝังฝ้ามาเป็นแนวยาว ก็ถือว่าเป็นการออกแบบที่ผ่านกระบวนการคิดหลายอย่างนะคะ เพื่อให้ได้มุมมองแบบพาโนราม่าแบบนี้
มีเต้ารับสำหรับเสียบปลั๊กไฟแบบฝังพื้นของ Schneider ลักษณะแบบนี้มาให้หลายจุดอยู่เหมือนกัน
จากห้องนั่งเล่นมองกลับไปที่โถงทางเดิน จะเห็นผนังหลังโซฟาเป็นผนังโค้ง อันนี้ของจริงจะไม่เป็นแบบนี้นะคะ จะเป็นผนังตัวป้านตามผังห้องค่ะ อันนี้คือทางอินทีเรียเบิ้ลผนังออกมาทำผิวดัดโค้ง และทำเป็นชั้นเก็บของ Built in มาให้ดูเป็นไอเดีย เผื่อใครอยาก Built in ตามนะคะ
ถ่ายให้ดูส่วนห้องนั่งเล่นค่ะ จะเห็นว่าวางโซฟารูปตัว L นั่งได้ 3 – 4 คนสบายๆ วางโต๊ะกาแฟ วางโต๊ะข้างได้ จะเห็นว่าผนัง Built in ด้านหลังโซฟามีประโยชน์มากนะคะ ในแง่ชีวิตประจำวันและการเก็บของ ถ้าเป็นเราซื้อห้องราคาขนาดนี้ได้เรา Built เพิ่มแน่นอน ใช้วางหนังสือ ขวดไวน์ หรือเก็บของกระจุกกระจิกได้ดี
บรรยากาศห้องนั่งเล่นและผนังกระจกโค้งค่ะ จากโซฟาวางชั้นวางทีวีด้านหน้าได้นะคะ ระยะดูทีวีประมาณ 1.8 เมตร
ที่พื้นมีฝังเต้าเสียบสำหรับทีวีมาให้แล้ว
ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่นเป็นส่วนห้องรับประทานอาหาร จัดมาเป็นโต๊ะอาหารแบบ 4 ที่นั่ง ระยะเดินรอบๆถอยเข้าถอยออกเก้าอี้ไม่อึดอัดค่ะ
ชุดครัวได้วัสดุแบบเดียวกันกับแบบ 1 ห้องนอนนะคะ แต่มีขนาดใหญ่กว่า มีที่เก็บของมากกว่าอย่างที่เห็น
เตาไฟฟ้าได้มาแบบสี่หัว พร้อมเครื่องดูดควันด้านบน
อ่างล้างจานสแตนเลส 2 หลุมมีฝาผิดด้านบนเพิ่มพื้นที่เตรียมอาหาร
ลิ้นชักมี slot สำหรับใส่ช้อนส้อมมาให้ ส่วนที่จับเป็นช่องหุ้มสแตนเลสขอบมนแบบนี้
เปิดบานตู้ชุดครัวให้ดูระยะเดินค่ะ
ราคา
ราคาเริ่มที่ 7.9 ล้านบาท/ 1 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 30.5 ตร.ม. หรือเริ่มต้นที่ประมาณ 259,000บาท/ ตร.ม.
ค่าส่วนกลาง : 65 บาท/ตร.ม./เดือน
ค่ากองทุน : 650 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
*ราคานี้เป็นราคาล่าสุด ณ วันที่ 7 ตุลาคม 2558 สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*
สรุป
ทำเลที่ตั้งโครงการ – โครงการ Ashton จุฬา – สีลม ตั้งอยู่บนถนนพระราม 4 มุ่งหน้าไปหัวลำโพง ใกล้กับรถไฟฟ้า MRT สถานีสามย่าน อยู่ตรงข้ามจามจุรีสแควร์เลย เป็นทำเลใจกลางเมืองที่จัดได้ว่าเป็นที่ดินผืนหายาก การคมนาคมที่สะดวกและหลากหลายและมีความอุดมสมบูรณ์ ไปไหนมาไหนก็สะดวกมาก เพราะอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ใกล้จุฬา ใกล้ห้าง ใกล้สยาม ใกล้สีลม สาทร ใกล้สวนลุมพินี ก็อยู่ในระยะที่พอเดินไปได้แทบทั้งหมด หรือนั่งรถไฟฟ้าก็ไม่กี่สถานีเท่านั้น
ความอุดมสมบูรณ์ – ติดๆโครงการจะมีร้านกาแฟ Too Fast To Sleep ที่เป็นที่นิยมของวัยรุ่นและคนทำงานที่นอนดึกอยู่ เปิด 24 ชั่วโมง ด้านในสั่งขนมเค้ก ไอศครีมและเครื่องดื่มต่างๆได้ ด้านล่างของร้านมีทั้งร้านส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ข้าวมันไก่ ที่เปิดตั้งแต่กลางวันจนดึกดื่น ใกล้ๆ เดินไปประมาณ 300 เมตรถึงก็มีจามจุรีสแควร์ เปิดตั้งแต่ 11 โมง ถึง 2 ทุ่ม ด้านในมีร้านอาหารเยอะเหมือนกัน นอกจากนี้แถวหน้าวัดหัวลำโพงก็มีร้านอาหารและแผงขายของกินอยู่หลายร้าน
ถ้าเดินได้ในรัศมีไม่เกิน 500 เมตร ก็มีทั้งร้านอาหารเก่าๆแถวสุรวงศ์ ร้านอาหารหลากหลายสัญชาติย่านสีลม อย่างอาหารญี่ปุ่นในซอยธนิยะ หรือพัฒพงษ์ก็อยู่ในระยะที่เดินไปถึงทั้งนั้นค่ะ อย่างสยามนี่ไม่ไกลนะ แต่อาจเดินเหนื่อยหน่อยเพราะห่างเป็นกิโล ก็นั่งวินมอเตอร์ไซค์ไป 40 บาท หรือเดินไปขึ้น BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ก็ไม่ยากนัก พูดได้ว่าเป็นย่านที่สมบูรณ์ หาของกินค่อนข้างง่าย และเหมาะสำหรับคนนอนดึกด้วยค่ะ
การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถ เส้นพระราม 4 ถือว่าอยู่ใจกลางเมืองอยู่แล้ว ขับไปไหนในตัวเมืองก็เป็นระยะสั้นๆค่ะ แต่ถ้าจะช้าก็เพราะรถติดในเวลาเร่งด่วน เพราะย่านนี้เป็นโซนใจกลางเมือง ใกล้ห้าง ใกล้ Office Building มากมาย แถมยังใกล้จุฬาฯอีก จริงๆมันก็เป็นทำเลที่ถ้าจะไปไหนใกล้ๆก็เดินไปหรือนั่งรถไฟฟ้าไปดีกว่า เพราะคนเยอะ รถก็เยอะตาม แต่สำหรับคนที่ต้องขับออกนอกเมือง หรือไปไหนไกลๆ ก็มีทางด่วนศรีรัช, ทางด่วนเฉลิมมหานคร ให้ใช้บริการได้ และจุดขึ้นลงทางด่วนทั้งคู่ก็อยู่ในระยะราวๆ 2-3 กิโลเมตรเท่านั้นจากโครงการ
การเดินทางด้วยรถสาธารณะ – พูดได้ว่าเป็นทำเลที่เหมาะกับคนไม่ขับรถนะ เพราะหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ที่มีรถเมล์วิ่งผ่านหลายสาย เดินไปอีกนิดก็มีวินมอเตอร์ไซค์ ซึ่งย่านนี้ในชั่วโมงเร่งด่วน พี่วินช่วยได้มากจริงๆ ตุ้กๆแท้กซี่ก็มีผ่านไปผ่านมาหน้าโครงการตลอด และจุดขายหลักเลยคืออยู่ใกล้ MRT สามย่านเดินไปแค่ 180 เมตร ซึ่งถือว่าสะดวกมาก แต่สำหรับคนที่ใช้ BTS เป็นหลัก ก็ต้องไปเปลี่ยนสายสถานีหรือไม่ก็เดินไป BTS ศาลาแดงที่ห่างออกไปประมาณ 600 เมตร ซึ่งสำหรับคนใช้ BTS เป็นหลักแบบใช้ทุกวันมันก็ไม่ได้สะดวกนัก แต่โดยภาพรวมแล้วก็ถือว่าเป็นทำเลที่ดีมากอยู่ดีสำหรับคนไม่ใช้รถค่ะ
การออกแบบโครงการและวัสดุ – โครงการ Ashton จุฬา – สีลม มีจุดเด่นที่เป็นไฮไลท์เลยคือเป็นตึกสูงที่ส่วนมุมเป็นกระจกโค้งมน ซึ่งนอกจากจะมาจากฟังก์ชั่นที่ได้คือห้องแบบ 2 ห้องนอนจะเห็นวิวมุมกว้างแบบพาโนราม่าแล้ว ยังได้ลุคดูหรูหราและทันสมัยอีกด้วย โครงการที่อยู่ในที่ดินแพงๆแบบนี้ การออกแบบต้องคิดทุกเม็ดค่ะ ว่าคุ้มค่ารึเปล่า ซึ่งผลที่ได้ถือว่าออกมาดีค่ะ คือไม่เสียพื้นที่ใช้สอยให้กับดีไซน์มากไปด้วย คือไม่ได้โค้งเฟี้ยวฟ้าว แต่โค้งแบบมีเหตุผล 555+
ส่วนห้องพักแบบ 1 Bedroom จะมีฉากกั้นสามตอนฝังในผนัง ทำให้ห้องนี้สามารถใช้งานห้องนั่งเล่นและห้องนอน ทั้งสองฟังก์ชั่นได้ในเวลาเดียวกันและแยกส่วนกันได้เวลามีแขกมาหา รวมถึงคอนเซ็ป Eco Urban living ก็เหมาะสำหรับโครงการในเมืองแบบนี้ค่ะ เน้นปลูกต้นไม้เยอะๆ มีสวนขั้นบันได สวนแนวตั้ง ใช้หลอดไฟประหยัดพลังงาน และพลังงานแสงอาทิตย์
ทางโครงการขายแบบ Fully Fitted อุปกรณ์ที่มีให้ได้แก่ ชุดเคาน์เตอร์ครัวบนล่างท๊อปหินสังเคราะห์บานปิดซอฟท์โคลสพร้อมเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน และอ่างล้างจานแบบมีฝาปิดเป็นหินสังเคราะห์เข้ากันกับเคาเตอร์ ช่วยเพิ่มพื้นที่ในการทำครัว พื้นครัว, ระเบียง และห้องน้ำปูพื้นด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ 30 x 60 cm. พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนเป็น Engineering wood, กระจกภายนอกอาคารใช้กระจกลามิเนตตัดแสงบานใหญ่ แอร์เป็นแบบคอนซีลมาในฝ้าเพดานให้เรียบร้อย, ส่วนในห้องน้ำ เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าเป็นท็อปหินสังเคราะห์, อ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์ของ Kohlor, สายชำระ ของ Englefeld, ชุดฝักบัวอาบน้ำและก็อกน้ำของ Grohe, ฉากกั้นส่วนเปียกเป็นกระจกเทมเปอร์ มีการ Drop ฝ้าเพดานเพื่อติดรางผ้าม่านให้และแถมผ้าม่านชั้นนอกแบบทึบแสงให้ด้วยค่ะ
วัสดุให้มาโอเคสำหรับราคาระดับนี้ค่ะ คือไม่ได้ให้เยอะ ตู้เสื้อผ้าไม่ได้ ชั้นเก็บของไม่มี แต่มีความใส่ใจและใช้ของดีในส่วนที่ให้ แต่จริงๆแล้วคอนโดราคาแบบนี้ ความคุ้มค่าหรือสเป็คของวัสดุไม่ได้เป็นปัจจัยหลักสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมากนัก เพราะจริงๆราคานั้นถูกกำหนดด้วยราคาทำเลที่ตั้งและปริมาณพื้นที่รวมของตึกที่สามารถขายได้เป็นหลักมากกว่า หรือพูดง่ายๆว่าแพงเพราะทำเลที่เป็นที่ดินผืนหายากแล้วนั่นเอง ราคาไม่ได้แพงเพราะสเป็ควัสดุ
สิ่งอำนวยความสะดวก – นอกจากที่จอดรถชั้น 1 – 6 และสวนด้านหน้า Lobby โครงการและ สวนชั้น 7 แล้ว พื้นที่ส่วนกลางหลักๆจะอยู่ในชั้น 48-49 ซึ่งค่อนข้างจะเน้นพื้นที่ที่ให้เห็นวิวดีมมกว้าง มีสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ เล่นระดับ ขนาด 6 x 50 เมตร โดยมีพื้นที่จากุซซี่ให้ด้านหน้า 1 จุดและออนเซ็นให้ 2 จุด เป็นพื้นที่แบบต่างระดับ บรรยากาศดูหรูหราและใหญ่ดีค่ะ มีสระเด็กอยู่ด้านหลัง ห้องออกกำลังกายมีให้ 2 ชั้น รวม 2 ชั้นก็มีเครื่องออกกำลังกาย 20 เครื่อง ห้องออกกำลังกายมีผนังห้องเป็นกระจกสามารถออกกำลังกายไปมองวิวของตึกสูงไปได้ นอกจากนี้ก็มีห้องโซเชียลคลับ/ไวน์บาร์, ห้องสมุด, ห้องอเนกประสงค์ ,ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า, ห้องซักรีด, ห้องซาวน่า, ห้องอบไอน้ำ ครบครัน
นอกจากนี้ Retails ชั้นล่าง 2 ห้องยังมีแผนเปิดเป็นร้านสตาร์บั๊คด้วยค่ะ มีที่จอดรถจักรยาน, ที่จอดรถ Super Car และที่ชาร์จแบตรถไฟฟ้าในชั้น 1 แต่สำหรับที่จอดรถยนต์ทั้งโครงการจอดได้ประมาณ 560 คันคิดเป็น 40% ไม่รวมจอดซ้อนคัน สำหรับโครงการที่มียูนิตเยอะแบบนี้ถือที่จอดรถค่อนข้างน้อยนะคะ แต่คิดว่าน่าจะมาจากการวิเคราะห์ทำเลว่าเหมาะกับคนไม่ใช้รถมากกว่าก็เป็นได้ค่ะ
ส่วนลิฟต์โดยสารมีให้ทั้งหมด 7 ตัว กับลิฟต์บริการอีก 1 ตัว อัตราส่วนลิฟท์รวมทั้งโครงการ 169 : 1 แต่โดยรวมแล้วให้ส่วนกลางเยอะ ครบครัน เพื่อให้สอดคล้องกับยูนิตพักอาศัยที่เยอะเช่นกัน (1,180 ยูนิต) ค่าส่วนกลาง ตร.ม. ละ 65 บาท ก็ถือว่าสูง สมมติห้อง 30.5 ตร.ม. ต้องจ่ายเดือนละเกือบสองพันบาท ส่วนนึงก็เพราะได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ด้วย แต่สำหรับโครงการราคาระดับนี้ ค่าส่วนกลางเท่านี้กลายเป็นเรื่องเล็กไปเลย เพราะเหตุผลหลักในการตัดสินใจซื้อคอนโดมิเนียมในราคานี้ เรื่องความคุ้มค่าด้านราคากับวัสดุคงไม่ใช่เหตุผลหลัก แต่เป็นเรื่องของความพอใจ ไม่ว่าจะพอใจในทำเล ดีไซน์ หรือ ไลฟ์สไตล์จากการอยู่อาศัยที่นี่ มีความคุ้มค่ากับจิตใจและตอบโจทย์ความต้องการได้ซะมากกว่า
คะแนน
ทำเลที่ตั้งโครงการ | 9.0 | ติดถนนใหญ่พระราม 4 ใกล้รถไฟฟ้า MRT สามย่าน |
การเดินทาง ใช้รถ | 7.5 | เดินทางสะดวกใกล้ทางด่วน ไปไหนมาไหนง่าย แต่ต้องระวังรถติด |
การเดินทาง ไม่ใช้รถ | 9.0 | สะดวกมาก มีป้ายรถเมล์, วินมอเตอร์ไซค์, ตุ๊กๆ, รถไฟฟ้า อยู่ใกล้ในระยะไม่ถึง 200 เมตร |
ห้องและวัสดุ | 8 | แปลนห้องแบ่งได้เป็นสัดส่วนลงตัว วัสดุอยู่ในระดับดี – ของที่ให้มาเข้ากับคอนเซปต์ของโครงการ |
สิ่งอำนวยความสะดวก | 9.0 | มีให้ครบครันและออกแบบได้น่าใช้งาน |
ความคุ้มค่ากับราคา | 8.0 | เริ่มต้นที่ 259,000บาท/ ตร.ม. ได้ทำเลติดรถไฟฟ้า ห้องพักอาศัยและดีไซน์มีสไตล์ แต่น่าจะให้ตู้เสื้อผ้ากับชั้นวางของเพิ่ม |
คะแนนรวมเฉลี่ย | 8.4 | ดี |
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 02 316 2222
Website : http://www.ananda.co.th/condo/projects/ashton-chula-silom/sem.php
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ